เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 การปฏิบัติการของตำรวจไซเบอร์ได้นำไปสู่การจับกุม “พ่อค้าซูชิหื่น” ที่ถูกกล่าวหาว่าล่อลวงเด็กหญิงอายุน้อยเพื่อถ่ายคลิปวิดีโออนาจาร โดยพบผู้เสียหายมากกว่า 30 ราย ด้วยอายุต่ำสุดเพียง 13 ปี การจับกุมนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของพล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด และทีมงาน ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดนี้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 จากพลเมืองดี
การสืบสวนเริ่มต้นจากการตรวจสอบโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งโฆษณาวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็ก จากการจับกุมเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 อุปกรณ์ของนายศุภัช ผู้ต้องหา ได้เปิดเผยพฤติกรรมการล่อลวงและการบันทึกคลิปวิดีโออนาจาร
พบว่านายศุภัชมีการใช้แอปพลิเคชันไลน์ภายใต้ชื่อบัญชี “Nikky” เพื่อชักชวนเข้ากลุ่มลับที่มีการโพสต์สื่อลามกอนาจารเด็กและเรียกเก็บเงินจากสมาชิก ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ
การจับกุมครั้งนี้เป็นการเตือนใจว่าการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กผ่านโลกออนไลน์เป็นการกระทำที่ร้ายแรงและผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตรายบนโลกไซเบอร์
การจับกุมของนายศุภัชไม่เพียงแต่เปิดเผยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายมากกว่า 30 ราย แต่ยังเน้นย้ำถึงปัญหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในสังคม นั่นคือการแพร่กระจายของสื่อลามกอนาจารเด็กและการล่วงละเมิดทางเพศผ่านโลกออนไลน์ การที่เหยื่อมีอายุน้อยถึง 13 ปี ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เด็กและเยาวชนต้องเผชิญในโลกดิจิทัล แต่ยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เข้มข้นและรวดเร็วจากทั้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและสังคมเพื่อป้องกันการกระทำที่เลวร้ายนี้
การปราบปรามไม่ได้จบเพียงแค่การจับกุมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความตระหนักในสังคมเกี่ยวกับอันตรายของการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กบนอินเทอร์เน็ต การศึกษาและการสอนเยาวชนเกี่ยวกับการปกป้องตนเองและการรู้จักสัญญาณเตือนของการถูกล่อลวงออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การเพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายและการติดตามตัวผู้กระทำความผิดต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน
การจับกุมครั้งนี้ยังเป็นการเตือนใจถึงความรับผิดชอบของผู้ปกครองและผู้ใหญ่ในการดูแลและปกป้องเด็กจากอันตรายในโลกไซเบอร์ การสื่อสารและการสร้างความเข้าใจกับเด็กเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกัน การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โรงเรียน และครอบครัวจะช่วยเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ป้องกันการกระทำผิดพลาดและการล่วงละเมิดที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กในอนาคต